วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

เรื่อง เรื่อง(ของ)พิชิต บทความพรุ่งนี้ผม(อาจ)จะตาย


เรื่อง เรื่อง(ของ)พิชิต

ดัดแปลงจากบทความของน้าเน็ก

ตอน-พรุ่งนี้ผม(อาจ)จะตาย
-------------------------(*_*)---------------------------


                สวัสดีครับ ผมชื่อพิชิต สุดศิริ ชื่อเล่นอาร์หรืออ๋า นะครับ ผู้ที่ครั่งใคร่เรื่องราวที่เกี่ยวกับเรื่องของความตายเพื่อนของผมหลายๆคนที่รู้จักผมมาไม่นาน เขาอาจจะมองว่าผมบ้า มองว่าผมติงต๊อง แต่ผมก็เป็นอย่างที่เขาว่าแหละครับ มันคงจะไม่ผิดหรอกน่ะที่ผมเป็นตัวของตัวเองไม่ตามใครหรอกในแต่ละวันก็อยู่แต่ในโลกส่วนตัวของผมแหละไม่ค่อยออกไปยุ่งเกี่ยวกับใครหรอกครับ เอ่อ! มีเพื่อนๆขอผมถามผมว่าทำไมผมเขียนเรื่องนี้มาเพื่ออะไร..? ผมตอบอย่างมั่นใจเลยว่า....เพื่อพวกคุณนั่นแหละ ผมว่าเรื่องที่ผมเขียนเรื่องนี้บางคนอ่านอาจจะเป็นการให้กำลังใจ แก่ผู้ที่กำลังท้อ แก่ผู้ที่กำลังมีปัญหาอันยิ่งใหญ่ในชีวิตของเขานะครับ ผมว่าถ้าคุณๆอ่านเรื่องนี้แล้ว แล้วอยากให้เก็บเอาไปคิดแล้วมันก็จะเกิดประโยชน์กับตัวของพวกคุณเองที่อ่านเรื่องนี้
             ผมมีความเชื่ออยู่อน่างหนึ่งนะว่า คนเราทุกๆคนที่เกิดมาบนโลกใบนี้มักจะมีอายุเฉลี่ยประมาณ คนละ 60 ปี นะ แต่คนที่เกิน 60 ปี ก็มีอยู่นะครับบางคนก็ถึง 90 ปี บางคนก็ถึง 100 ปีก็มีอยู่ให้เห็นเรื่อยๆแหละนะครับผมคิดว่าใน 1 ปี ของเราก็มีเท่ากันหมดทุกๆคน ก็คือ 365 วัน แต่ถ้าเอามาคิดปลีกย่อยออกไปอีกก็แสดงว่าคนเราคนหนึ่งเกิดมาอยู่บนโลกนี้เพียง 21,900 วันเท่านั้นเองหรอ...? แต่! ถ้าผมจะคิดปลีกย่อยออกไปเป็นนาที เอ่อ!ก็ประมาณ 525,600 นาที ถ้างั้นผมก็จะลองคิดไปเป็นสัปดาห์ ก็ประมาณ 3,120 สัปดาห์นั่นเองครับ สำหรับเวลาที่เขาให้เรามานั้น บางคนอาจจะว่ามาก บางคนอาจจะว่าน้อย บางคนก็อยู่ถึง บางคนก็อยู่ไม่ถึง แล้วคุณละจะอยู่ถึงตามเวลาที่เขากำหนดให้เรามาหรือเปล่า คนเราทุกๆคนรู้วันเกิดของตัวเอง แต่จะมีสักกี่คนล่ะ...! ที่รู้วันตายของตัวเอง ที่ผมคิดแบบนี้มันก็ไม่ต่างจากที่เรานับวันตายถอยหลังของเราหรอกนะครับ เพราะผมเชื่อว่าคนเราเกิดมายังไงก็ต้องตาย ผมขอโทษนะครับบางทีเรื่องที่ผมเขียนมันอาจจะไม่ขำนะ... แสดงว่าตลอดเวลาที่เราอยู่บนโลกใบนี้มันอาจจะน้อยมากถ้าผมจะเอาไปคิดในเชิงของตัวเลขนะ ผมเชื่อว่ายังมีหนังสืออีกหลายๆๆๆๆเล่มที่เรายังไม่ได้อ่านมัน และยังมีเพลงอีกหลายๆเพลงที่เรายังไม่ได้ฟังนะ ยังมีหนังอีกหลายๆเรื่องที่เราอาจจะยังไม่เคยได้ดู บางคนอาจจะยังไม่ได้ไปในที่ที่คุณอยากจะไป หรืออาจจะเป็นความรู้สึกดีๆของเรา ที่เราเก็บไว้ในใจของเราโดยที่เรายังไม่ได้ที่จะบอกใคร...คุณคิดหรอว่าจะเก็บมันไว้อย่างนี้หรอผมบอกตามตรงนะครับ เวลาที่เรารักใครสักคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าเขาจะรักเราหรือไม่รักเราก็ช่างนะครับ แค่ผมอยากให้คุณบอกให้เขารู้ไปเลยว่า “ผมรักคุณ” อย่าเป็นเหมือนผมเลยนะครับ
              ที่ได้แต่เก็บความรู้สึกอย่างนี้มาเกือบ 5 ปี โดยที่ผมคิดว่าเขาไม่รักผม บางที่เขาก็ดูเหมือนมีใจให้กับผมแต่บางวันเขาก็เหมือนเป็นคนละคน สิ่งเหล่านี้ก็คือส่วนหนึ่งของชีวิตใครทุกๆคนที่ต้องมีความรัก หรือไม่ก็อาจจะแอบปลื้มใครสักคนหนึ่งโดยที่ไม่กล้าบอกเขา.... ผมอยากถามพวกคุณว่า มันคุ้มค่าหรือยังกับการที่คุณเกิดมาและใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ คุณละทำอะไรที่เกิดประโยชน์หรือยัง ผมว่าคนหลายๆทำสิ่งที่เกิดประโยชน์ให้กับสังคมแล้วแต่มีบางคนที่ยังไม่ได้ทำ สำหรับเวลาที่เหลืออยู้อาจจะอีกไม่นานนะ แต่ผมอยากให้คนที่อ่านทุกๆคนให้คิดเสียว่า พรุ่งนีเรา(อาจ)จะตาย เพื่อที่เราจะได้ทำวันสุดท้ายของชีวิตให้มันคุ้มที่สุดและเป็นวันสุดท้ายที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิตคุณเพราะว่าพรุ่งนี้คุณ(อาจ)จะตาย ถ้าคุณไม่ตายก็ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าคุณจะตายสมใจไง นี่ผมไม่ได้เขียนปรัชญางี่เง่าอะไรหรอกน่ะ แต่นี่คือเรื่องจริงที่พวกคุณไม่เคยคิดเห็นมันไง แล้วคุณจะทำยังไงกับมันดีล่ะ แต่ผมว่าน่าแปลกน่ะที่คนเราหลายๆคนต้องยอมทนทำงานน่าเบื่อๆๆนั่งเอาหัวตากแอร์ไปวันๆ ยอมให้คนที่ไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่แม่ จิกหัวใช้ไปวันๆที่เขายอมทำอย่างนี้ก็เพื่ออย่างเดียวคือ “เงินเดือนไง” หรือไม่บางคนก็ทนเรียนตั้ง 2 ปี (ปวส.)หรือไม่ก็ 4 ปี (ป.ตรี)ทั้งๆที่รู้ว่าชอบหรือเปล่า รู้แต่ว่า แม่ชอบ ไม่งั้นก็อาจจะเห้นว่าเพื่อนเรียน ก็เลยเรียนตามเพื่อนไม่รู้ว่ามันชอบหรือเปล่าน่ะ เพียงแค่เราตอบตัวเองไม่ได้ว่า “ชีวิตนี้กูจะเป็นอะไรดี” บางคนอาจจะรักเขาอยู่อย่างนั้นแหละนะ แบบว่ารักเขาข้างเดียว(ผมก็เป็นแหละเป็นมากด้วย)ผมว่าอยู่ปล่อยให้ความรู้สึกของเราลอยไปหาคนอื่นอีกเลย แต่ดันปล่อยให้ความรู้สึกตัวเอง ต่ำต้อย ได้ทุกๆวัน บางคนก็อาจจะกินอาหาร หรือไม่ก็เก๊กใส่กันไปวันๆอย่างงั้นแหละต่างฝ่าย ต่างรอให้อีกฝ่ายหนึ่งง้อ มึงแน่ กูแน่ อย่างนี้ผมตั้งฉายาให้นะครับว่า “มึงจะงอนการกุศลหรือยังไง”
                  แข่งกันประชด ทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ.......โถไอ้บ้าและในอีกหลายๆคนมักจะนิยมกิจกรรมที่ฆ่าเวลา แบบว่าชีวิตมันน่าจะว่างจัดนะครับถึงต้องฆ่าเวลากันเลย ผมไม่เข้าใจนะครับว่าทำไม ฆ่าอย่างอื่นยังไม่บาปเท่ากับเราฆ่าเวลานะ คุณอาจจะยังไม่รู้ ฆ่าเวลาคืออะไร มันคือการฆ่าตัวตายไง ไอ้พวกนี้มัน สิ้นคิด เจอแค่อุปสรรคอย่างเดียว ไม่มีทาง(ตัน)คิดอะไรไม่ออก ก็ไปเขียนจดหมายน้อยบอกลา พ่อแม่ เพื่อน ญาติพี่น้อง “ขอโทษด้วยครับที่ชาตินี้คงไม่มีผมอีกแล้วขอบคุณทุกๆสิ่งทุกกๆอย่าง ผมลาก่อน” ตายแล้ว คุณนะหมดทุกข์แล้ว แต่ตอนนี้ครอบครัวของคุณกำลังเป็นทุกข์ไง ผมอยากให้คุณคิดเสียว่า พรุ้งนี้ฉันจะตาย หันมาคิดแบบนี้บ้างน่ะ ไม่ใช่ว่า อกหัก เขาไม่รัก อย่างงั้นกูตายดีกว่า เพื่อนๆครับ การฆ่าตัวตายมันบาปนะครับ แบบว่าบาปยิ่งกว่าเราฆ่าสัตว์นะ อีกหน่อยเดี๋ยวเราก้ตายจากกันแล้ว หันมาคิดแบบนี้บ้าง เออ...! ใช่แล้ว เดี๋ยวเราจะเกิดความเสียดายภายหลัง เพราะยังมีอีก หมื่อ แสน ล้าน ที่เรายังไม่ได้ทำ และยังไม่ได้ไป เฮ้ยเราจะตายได้ยังไง ในเมื่อความฝันของเรายังไม่เป็นจริง เฮ๊ย! นี่ผมไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอมตายน่ะ แต่ที่ผมบอกให้คุณรีบทำทุกๆอย่างๆก่อนที่มันจะสาย เราอาจจะไม่รู้ว่าวันไหนเราจะตาย หรือไม่ก็ พรุ่งนี้เราจะตาย(มั้ง) และในเมื่อเราไม่รู้ว่าวันไหนเราจะตาย ผมอยากให้ทุกๆคนมาเตรียมตัวตายกันดีกว่านะครับ เพื่อรอวาระสุดท้ายของเรานะ แบบว่าจะตายวันนี้ หรือ พรุ่งนี้ เราจะได้นอนตายตาหลับไง โดยคิดเสียว่า พรุ่งนี้ฉันจะตาย จงย้อนกลับมาทำในสิ่งที่เรารักให้คิดเสีย เราจะไม่ได้ทำมันอีก จงเดินตามหาความฝันของให้เจอ เฮ๊ย! เราต้องรีบแล้วน่ะ เดี๋ยวตานก่อนไม่ได้ทำน่ะไม่ใช่ว่าผมไม่เตือนน่ะ นี่ผมได้เตือนแล้วน่ะเวลาที่เรารักใคร ก็บอกเขาไปให้หมดไอ้ความรรู้สึกที่มีน่ะ ส่วนเขาจะรักหรือไม่รักเราไม่สน แค่พรุ้งพรุ่งนี้ฉัน(อาจ)จะตาย หันมาใช้เวลาที่อาจจะเป็นเวลาสุดท้ายของเราที่มีต่อกันไว้น่ะ เวลาที่คุณกอดใคร ก้ให้กอดคิดเสียว่าเป็นการกอดครั้งสุดท้ายต่อไปนี้ผมจะไม่ได้กอดคุณอีกน่ะ เพื่อที่คุณจะได้ซึมซาบความรู้สึกจากอ้อมกอดอย่างเต็มที่และสบายใจไงเวลาที่เราตายไปแล้วคุณรู้ใหมว่าที่แรกที่เราจะไปคือที่ไหน...? คือที่ปรโลกไงที่นี่ใครที่ตายต้องมาเป็นที่แรก ไม่ว่าจะรวยหรือจนก็ต้องมา สิ่งที่มากับคุณคือ ความดี และ ความชั่ว ที่มันจะติดตัวของคุณไปตลอดทุกๆๆๆๆๆชาติที่คุณเกิดไงครับ เอ่อลืมบอกนะครับ เวลาที่คุณตายไปแล้ว ผมอยากให้คุณมีหน้าที่ยิ้มแย้มไปนะครับเพื่อที่จะได้ตอบกับท่านยมบาลอย่างภาคภูมิใจไงครับ........เดี๋ยวเราก็ตายจากกันเชื่อเถอะคร๊าบบบบบบบ

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านครับ(ความคิดส่วนตัวเน้อ)

1 ความคิดเห็น: